วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันแม่

วันแม่







วันแม่ เป็นวันที่สำคัญในหลายประเทศทั่วโลกจัดขึ้นเพื่อให้เกียรติแม่และความเป็นแม่ ในประเทศไทยวันแม่แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ในประเทศอื่นทั่วโลกวันแม่จะอยู่ในช่วง เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ส่วนในอังกฤษและไอร์แลนด์วันแม่จัดขึ้นต่อจากวันอาทิตย์แห่งความเป็นแม่ซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์

ในประเทศไทย เดิมมีการจัดงานวันแม่ โดยสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 ตามมติคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 ในคณะรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ 12 สิงหาคม ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกับได้กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แทนวันแม่ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีสีขาว มีกลิ่นหอมและออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก

ตัวอย่างกลอนวันแม่

ของขวัญจากลูก
สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่ง กลอนวันแม่)

มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก

กรุ่นกลิ่น "รัก" บริสุทธิ์ผุดผ่องใสแทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ
เป็นมาลัย "กราบแม่" พร้อมน้อมบูชา
อาจทนแทนเปรยเปรียบเทียบคุณค่า
แต่พระคุณ"หนึ่งหยดน้ำนมมารดา
"ทั้งสามภพจบหล้า...หาเทียมทัน
หรือเรียงร้อยพจนามาเสกสรรค์
เพื่อบรรยายพระคุณนี้ที่ "อนันต์"
จึงตั้งมั่น "กตัญญุตา" ตลอดไป
ต่างเพชรพลอย ตีราคาค่ามิได้
แต่แม่จ๋า... "รักที่หนึ่ง" ของหัวใจ
มิใช่ใคร "ลูก รัก แม่" แน่นิรันดร์

กี่พระคุณจากใครอื่นนับหมื่นแสน
ลูกไม่อาจเอ่ยแสดงแถลงถ้อย
หนึ่งคำ "รัก" ลูกรักแม่ แม้ค่าน้อย


วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย


 



ประเทศมาเลเซียจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556  หลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3เมษายน  2556 โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐ 12  จาก 13 รัฐ (ยกเว้นรัฐซาราวักหลังธรรมเนียมปฏิบัติที่เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดการเลือกตั้งเหล่านี้พร้อมกันประเทศมาเลเซียจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเมื่อวันที่ 5พฤษภาคม 2556  หลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ เมษายน  2556 โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐ 12  จาก 13 รัฐ (ยกเว้นรัฐซาราวักหลังธรรมเนียมปฏิบัติที่เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดการเลือกตั้งเหล่านี้พร้อมกัน             
         
นายกรัฐมนตรีนาจิ๊บ ราซัค ผู้นำพรรคแนวร่วมแห่งชาติวิงวอนฝ่ายค้านยอมีรับผลการเลือกตั้งเดินหน้าสร้างความปรองดอง หลังคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีนาจิ๊บวิงวอนให้พรรคร่วมฝ่ายค้านยอมรับผลการเลือกตั้งเพื่อนำพาประเทศไปสู่ความปรองดองและแสดงให้โลกเห็นว่ามาเลเซียมีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 

ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านปากาตัน รักยัต ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้นมากมายกว่าหมื่นคดี ซึ่งคณะกรรมการเลือกตั้งไม่สามารถจัดการได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่หมึกทาบนนิ้วเพื่อแสดงว่าใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้วสามารถลบออกได้ง่ายทั้งที่ต้องติดนานอย่างน้อย สัปดาห์ หรือการนำคนต่างชาติ จากบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียมาสวมสิทธิ์เลือกตั้ง นอกจากนี้ตามโซเชี่ยลมีเดียของมาเลเซียก็การเปิดโปงการทุจริตในรูปแบบต่างๆมาเผยแพร่ อาทิวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีคนต่างชาติได้รับสัญชาติโดยวิธีที่น่าสงสัยและถูกส่งตัวไปยังหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งหลังผลการเลือกตั้งออกมาผู้สนับสนุนฝ่ายค้านหลายพันคนได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในเฟซบุคเป็นสีดำแสดงถึงความผิดหวัง ขณะที่หลายฝ่ายจับตาอนาคตทางการเมืองของอันวาร์ว่าจะเป็นอย่างไรหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

อย่างไรก็ตามฝ่ายรัฐบาลและคณะกรรมการเลือกตั้ง ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านและกล่าวว่ามีผู้สนับสนุนของของพรรครัฐบาลได้จ่ายค่าเดินทางให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อยู่ต่างประเทศบินกลับมาลงคะแนน-การเลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งถึง 10 ล้านคน คิดเป็น 80 เปอร์เซนต์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 13 ล้านคน และแม้ว่าพรรคแนวร่วมแห่งชาติจะได้ที่นั่งในรัฐสภาไป 133 ที่นั่ง แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดของพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องที่นั่งลดลงจากเดิม 140 ที่นั่งจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2008 ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ก็ได้ที่นั่ง 89 ที่นั่งเพิ่มขึ้นจากเดิม ที่นั่ง 

ขณะที่ตลาดหุ้นมาเลเซียขานรับผลการเลือกตั้งทะยานขึ้นสูงสุดเป็นยประวัติการร์ 6.8 เปอร์เซนต์ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้นในรอบ 10 เดือน

ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (พ.ค.) ปรากฏว่า หลังปิดหีบลงคะแนนผ่านไปประมาณ 9ชั่วโมง และนับบัตรได้กว่า ใน ของทั้งหมด พรรคร่วมรัฐบาลในนาม แนวร่วมแห่งชาติ” นำโดยพรรคอัมโนของ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค คว้าชัยชนะได้สำเร็จ เมื่อได้ ส.ส. เข้าสู่รัฐสภาแล้วอย่างน้อย 127 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากจากทั้งหมดในรัฐสภา 222 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเอกเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้าน พรรค นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้ ส.ส. แล้ว 77 ที่นั่ง
นับเป็นชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไป 13 ครั้งติดต่อกัน ของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งผูกขาดครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาตลอด ตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ. 2500 และเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างผิดความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่สุดจากฝ่ายค้าน
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติมาเลเซีย เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนราว 13 ล้านคน ตัวเลขผู้ที่ออกไปใช้สิทธิสูงถึง 80 % หรือกว่า 10 ล้านคน โดยการลงคะแนนมีขึ้นในหน่วยเลือกตั้งกว่า 8,000 หน่วยทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 08.00 น. – 17.00 น.